ข้อควรรู้! ก่อนนำกัญชามาทำอาหาร

by Happy Wonder

หลังจากที่ประเทศไทยของเราได้ปลดล็อคการใช้กัญชา หลายคนหันมาใช้และซื้อ-ขายกัญชากันอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงที่เป็นข่าวดังก่อนหน้านี้ก็คือการนำกัญชาไปประกอบอาหารเครื่องดื่มและเกิดอาหารแพ้อย่างหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล วันนี้เราจะมาบอกข้อควรรู้! ก่อนนำกัญชามาทำอาหาร เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดตามมา…กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ

ไม่ควรใช้ช่อดอกกัญชามาใส่ในอาหาร

ในดอกกัญชามีสาร THC ที่ฤทธิ์มึนเมาสูงมากเพราะมีความเข้มข้นสูง ทำให้เกิดพิษต่อสมอง จิตประสาท ส่งผลระบบการเคลื่อนไหว ถ้าเรารับสาร THC เกินขนาดจะรู้สึกกระวนกระวาย หงุดหงิดโดยไม่รู้ตัว เกิดภาพหลอน มีอาการใจสั่น มึนศีรษะ คลื่นไส้ ฯลฯ และทำให้เกิดการดื้อต่อสารหรือเรียกว่าอาการเสพติดนั่นเองค่ะ
นอกจากตัวช่อดอกกัญชาแล้ว ส่วนอื่นของกัญชาที่ไม่ควรใส่ก็มี กิ่ง ก้าน ลำต้น ราก ถ้าจะใส่ให้ใช้แค่ใบเท่านั้น! และให้ใช้ใบกัญชาสด ใส่ได้ไม่เกิน 1-2 ใบต่อเมนู เพราะถ้าใช้มากเกินไป จะมีผลข้างเคียงหรือนำไปสู่การเสพติดได้ ส่วนคนที่แพ้สาร THC หรือสารอื่นๆ ในกัญชา ห้ามทานเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะอาจจะเสี่ยงอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้

ร้านค้าจำเป็นต้องแจ้งลูกค้าทุกครั้ง

ร้านค้าที่ประกอบอาหารหรือทำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องเขียนแจ้งผู้บริโภคให้ชัดเจนว่าอาหารนั้นๆ มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ เพราะหลายคนก็ไม่ได้ชอบรสชาติของกัญชา และยังมีความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้และอันตรายได้ค่ะ

เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรทาน

เด็กและผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี รวมถึงสตรีมีครรภ์และให้นมลูก ไม่ควรทานอาหารที่มีส่วนผสมกัญชาเพราะเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายต่อสุขภาพ โดยงานวิจัยพบว่ากัญชามีผลกระทบกับสมอง ทำให้ความสามารถทางสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กลดลง มีพัฒนาการและการเรียนรู้ช้า ส่งผลกับอารมณ์และจิตใจ และยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว ที่สำคัญคือเด็กมีโอกาสในการติดกัญชาได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ด้วยค่ะ
ส่วนเด็กที่อยู่ในครรภ์ก็เสี่ยงที่จะคลอดออกมาไม่สมบูรณ์ น้ำหนักน้อย อาจจะคลอดก่อนกำหนดหรือเสียชีวิตได้.. ส่วนคนที่วางแผนจะตั้งครรภ์ก็อาจทำให้ท้องนอกมดลูก หรือไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เช่นกันค่ะ

ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ

คนที่ทานกัญชาไปแล้วไม่ควรขับขี่รถหรือทำงานกับเครื่องจักรกล เพราะสติจะลดลง อาจจะมีอาการใจสั่น กระวนกระวาย หรือเกิดภาพหลอนทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมากค่ะ

คนที่มีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้กัญชา

ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรระวังมากเป็นพิเศษเลยนะคะ เพราะกัญชานั้นส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจตาย และส่งผลกระทบต่อไตและตับโดยตรง มีอาการมึนเมา ใจเต้นแรง อารมณ์แปรปรวน คลื่นไส้ อาเจียน และอาจกระตุ้นทำให้โรคมีอาการมากขึ้นหรือไปทำปฎิกิริยากับยารักษาโรคที่ใช้อยู่จึงต้องระมัดระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนใช้กัญชานะคะ

ไม่ควรทานติดต่อกันเป็นระยะยาว

กัญชามีผลกระทบระยะยาว ถ้าใช้เกิน 2-3 ปีขึ้นไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากมาย ทั้งสมาธิสั้น ความคิด ความจำแย่ลง บางรายถึงขั้นกลายเป็นโรคจิตเวชไปเลยก็มีค่ะ

ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ

เนื่องจากกัญชาทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตผิดปกติ จึงเสี่ยงทำให้ผู้สูงอายุหัวใจวายหรือเสียชีวิตกะทันหัน แถมยังส่งผลกระทบต่ออาการทางจิตอาจทำให้เกิดการทำร้ายตัวเอง นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผู้สูงอายุทรงตัวไม่ได้ จึงเสี่ยงต่อการเกิดการหกล้มในผู้สูงอายุหรืออุบัติเหตุได้ค่ะ

ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด (ยาวาร์ฟาริน) ไม่ควรทาน

กัญชาจะทำให้ยาละลายลิ่มเลือดออกฤทธิ์มากขึ้นหรือเพิ่มขนาดยาส่งผลให้เลือดแข็งตัวได้ลดลง ปริมาณเลือดมากและเลือดออกได้ง่ายขึ้น จนอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ค่ะ

วิธีแก้อาการเมากัญชาแบบเบื้องต้น

ถ้าเราเผลอทานอาหารที่ผสมกัญชาเข้าไปแบบไม่รู้ตัว และเกิดอาการมึนเมา วิธีแก้เบื้องต้นคือ เมื่อมีอาการปากแห้งคอแห้ง กระหายน้ำ ให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ อย่าปล่อยให้กระหายน้ำ หรือกินน้ำมะนาวปริมาณครึ่งลูกผสมกับเกลือหรือน้ำผึ้งเล็กน้อย หรือเคี้ยวพริกไทยก็ช่วยได้ค่ะ ถ้ามีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ให้ดื่มน้ำขิงหรือชาขิง 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วนเลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติด (ศศก.) และ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

 

Related Posts