รู้ไว้ก่อนทำ ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

by Happy Wonder

ตอนนี้เทรนด์การฉีดฟิลเลอร์ปากกำลังมาแรงมากกกกกค่ะคุณผู้ชมมมม ไม่ว่าจะเป็นดารา เน็ตไอดอล หรือขนาดเพื่อนๆ รอบตัวแอดเองก็ไปทำกันเพียบ! เพื่อริมฝีปากสวย~อวบอิ่ม ฉ่ำวาว แต่ๆๆๆ!! ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด เรามาดูกันก่อนดีกว่าค่ะว่าการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง? เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจค่าาา

ฟิลเลอร์ปากคือ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำมาฉีดบริเวณผิวริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างริมฝีปากให้สวยตามต้องการ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาวๆ ฝั่งตะวันตก สาวสายฝอที่จะชอบฉีดฟิลเลอร์ปากให้มีความอวบอิ่ม เพิ่มความเซ็กซี่ น่าจุ๊บบบบมากขึ้น! >3<

ข้อดี

– แก้ปัญหาปากไม่เป็นทรง
บางคนปากบน-ล่างไม่เท่ากันบ้าง มุมปากตกบ้าง ลักษณะรูปปากไม่ได้สัดส่วน ริมฝีปากไม่เท่ากัน การฉีดฟิลเลอร์จะสามารถเพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนังได้ค่ะ แก้ปัญหารูปปากคว่ำที่จะทำให้ดูหน้าบึ้ง โดยรูปปากที่สวยจะต้องเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า มุมปากทั้งสองข้างตรงหรือยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนคนกำลังอมยิ้มนิดดดๆ จะทำให้หน้าดูเป็นมิตร ตะมุตะมิตลอดเวลา สดใสน่ามองมากยิ่งขึ้นค่า ^^
– เห็นผลได้ทันทีหลังฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ปากใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาที สาวๆ ก็จะได้ริมฝีปากที่สวยยยดูดีอย่างง่ายดาย แถมถ้าทรงยังไม่ถูกใจก็สามารถแก้ไขได้ จะฉีดสลายหรือฉีดเติมก็ทำได้หมด ปรับรูปทรงปากให้สวยเป๊ะ! เห็นผลไว มีผลข้างเคียงน้อย เลิศอยู่นาาา

– มีความปลอดภัยสูง
ฟิลเลอร์ที่ใช้คือ สารยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่สกัดมาจากธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง สามารถย่อยสลายเองได้หมดตามธรรมชาติ 100% ภายใน 5 เดือน – 1 ปี เจ็บน้อย การดูแลรักษาง่าย เนื่องจากไม่มีรอยแผลใหญ่จากการฉีด จะมีก็แค่รอยเข็มเล็กๆ และรอยจะหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์ค่ะ แถมยังไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ตื่นมาแต่งหน้าไปทำงานสวยสับๆ ในวันรุ่งขึ้นได้เลยจ้า แต่เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดก็ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดนะจ๊ะ

– หน้าดูเด็กขึ้น
พอเราอายุมากขึ้นริมฝีปากก็จะเริ่มบางลงเรื่อยๆ เพราะคอลลาเจนที่สร้างนั้นน้อยลง ผู้ที่มีริมฝีปากบางมากๆ จนเกินไปจะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยมากขึ้น ปากดูไม่อวบอิ่ม แห้งแตก และเห็นริ้วรอยต่างๆ ได้แบบชัดเจน >,< เห็นเป็นร่องชัดเวลาทาลิปสติก การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณริมฝีปากให้ตื้นขึ้น ตอบโจทย์กับคนที่มีริมฝีปากบางให้กลับมาอวบอิ่ม น่าจุ๊บ ไม่แห้งแตกหรือลอกเป็นขุย และรูปปากที่สวยธรรมชาตินี้ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมออกมาดูเด็กขึ้นนั่นเองค่า

– ยิ้มสวยเพิ่มความมั่นใจ
เพราะรอยยิ้มคือเครื่องสำอางที่ดีที่สุด ถ้าเรามีริมฝีปากที่สวยอวบอิ่มก็จะช่วยให้รอยยิ้มดูสดใสน่ามองมากยิ่งขึ้นค่ะ ทำให้ใบหน้ามีความสดใส ปากอิ่มฟู มีน้ำมีนวล ยิ่งทาลิปสติกเพิ่มเข้าไปก็จะยิ่งเห็นทรงของริมฝีปากชัดเจน เสริมความมั่นใจให้เรามากขึ้นเวลาที่พูด ยิ้ม หรือพบปะผู้คน เป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเราได้ดีมากๆ เลยค่า

– เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรม
อยากสวยแต่ใจก็กลัวเจ็บ ไม่กล้าจะขึ้นเขียงผ่าตัด >,< การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปากเยอะเลยค่ะ ดูแลง่ายกว่า แถมยังไม่ต้องพักฟื้นนาน ไม่ต้องคอยรักษาแผล การผ่าตัดศัลยกรรมมีความเสี่ยงถ้าเกิดทำผิดพลาดไปจะแก้ไขได้ยากมาก การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นทางเลือกที่สะดวก เจ็บน้อย เห็นผลทันทีและปลอดภัยมากกว่าค่า

ข้อเสีย

– ต้องคอยฉีดซ้ำเรื่อยๆ
เพราะฟิลเลอร์มีการย่อยสลายตามธรรมชาติจึงไม่ได้มีผลถาวร ระยะเวลาของฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 5 เดือน – 1 ปี แตกต่างกันไปตามร่างกายของแต่ละคนค่ะ จึงต้องมีการฉีดเพิ่มอยู่บ่อยๆ ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองและเสียเวลา แนะนำว่าในช่วงแรกๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติได้ค่ะ

– เสี่ยงอันตรายถ้าใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
การใช้สารฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้รับรองความปลอดภัยจากอย. ก็อาจจะเกิดอันตรายกับผู้ฉีดได้ เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายได้เอง แต่จะเริ่มจับเป็นก้อนแข็งทำให้ริมฝีปากผิดรูปทรง เกิดอาการอักเสบ อุดตันในเส้นเลือด เนื้อตาย ไปจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้เลยนะคะ

ในการฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละครั้งจึงจำเป็นต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง มีเทคนิคเฉพาะตัวที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินได้ว่าควรใช้สารฟิลเลอร์ปริมาณแค่ไหนในการฉีด และควรปรับรูปทรงอย่างไรเพื่อให้ริมฝีปากออกมามีสัดส่วนที่สวยงาม ทำให้คนไข้เกิดความพอใจสูงสุดหลังจากฉีด โดยไม่เกิดอาการข้างเคียงหรืออันตรายตามมาค่ะ

– อาจมีผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงหลังจากการฉีดริมฝีปากที่พบได้ส่วนใหญ่คือ อาจจะมีรอยบวมแดงบริเวณที่ฉีด หรือรู้สึกปวดหลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งสามารถทานยาแก้ปวดตามได้ ส่วนอาการบวมแดงนั้นจะหายเป็นปกติหลังจากฉีดไม่กี่สัปดาห์ แต่ถ้าเกิดเคสร้ายแรงถึงขั้นรูปปากผิดรูปให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงอันตรายอื่นๆ ตามมาได้ค่ะ

Related Posts