น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เราใช้กันอยู่ นอกจากจะช่วยทำให้เนื้อผ้านุ่มน่าสัมผัสแล้ว ยังช่วยเพิ่มความหอม รีดผ้าได้ง่ายขึ้น ลดการเกิดขุยของผ้า และป้องกันการไฟฟ้าสถิตได้ และลดความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้ดีอีกด้วย แต่หลายคนอาจจะเจอปัญหาว่าใช้น้ำยาเท่าไหร่กลิ่นหอมก็ไม่ติดทนนานสักที บางทียังได้กลิ่นน้ำยาซักผ้าอยู่เลย เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมติดทนนานมากขึ้นมาฝากกันค่า
1. เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น
เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น และกลิ่นที่ถูกใจเราดูค่ะ หรือเป็นกลิ่นเดียวกับน้ำยาซักผ้าจะยิ่งทำให้ผ้าหอมนานยิ่งขึ้นค่ะ น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดเข้มข้นจะสกัดกลิ่นให้ออกมาหอมกว่าเดิมและช่วยให้กลิ่นกระจายลงบนผ้าดีกว่า แถมยังใช้ในปริมาณที่น้อยลงอีกด้วยนะคะ
2. ซักผ้าด้วยมือ
รู้ไหมคะว่าการซักผ้าด้วยมือจะให้หอมนานมากกว่าการซักด้วยเครื่อง 😉 เพราะซักมือจะใช้เวลาในการแช่ผ้าในน้ำยาปรับผ้านุ่มมากกว่า แรงบิดผ้าก็น้อยกว่า มีความชื้นมากกว่า กลิ่นหอมเลยฝังลึกติดทนนาน ที่สำคัญยังทำให้ผ้านุ่ม ถนอมผ้าแบบไม่ทำร้ายถึงเส้นใยด้วยค่า
3. ไม่ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนผ้าโดยตรง
ใครที่ชอบใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกับเสื้อผ้าโดย ถ้าสังเกตดูจะชอบมีคราบมีรอยด่างเกาะอยู่บนเสื้อผ้า และความลื่นความมัน นั่นก็เป็นเพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เราใส่ลงไปตกค้างและล้างออกไม่หมดนั่นเองจ้า วิธีที่ดีคือใส่ปริมาณน้ำยากับเสื้อผ้าให้พอเหมาะ สำหรับเรื่องซักผ้าให้เทลงไปในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม จากนั้นก็ซักปั่นแบบปกติ การปรับผ้านุ่มจะอยู่ในขั้นตอนน้ำสุดท้าย เท่านี้เครื่องซักผ้าก็จะปั่นและกระจายน้ำยาปรับผ้านุ่มได้พอดี ไม่มีคราบตกค้างบนเสื้อผ้าอีกแล้ว อ๊ะๆๆ!ห้ามใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มรวมกับผงซักฟอกเด็ดขาดเลยนะคะ
สำหรับซักมือก็ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายหลังจากล้างฟองออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว ปริมาณน้ำที่ใส่ก็ไม่ควรมากจนเกินไป แช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นบิดผ้าตากก็เรียบร้อยจ้า
4. อย่าตากผ้าตอนแดดแรงจัด
การตากผ้ากับแดดแรงๆ จะยิ่งทำให้กลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มหายไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่เหลือเลยค่ะ ยิ่งตากกลางแดดนานๆ จะทำให้ผ้าแข็งและกรอบยิ่งกว่าเดิม จึงไม่ควรตากในบริเวณที่แดดแรงจนเกินไป ถ้าเป็นผ้าบางๆ ตาก 1-2 ชั่วโมงก็แห้งแล้วค่ะ ถ้าซักตอนเช้า เที่ยงๆ บ่ายๆ ให้รีบเก็บทันที อย่าปล่อยให้ผ้าแห้งอยู่กับแดดนานจนเกินไปหรือตากข้ามวันข้ามคืนเพราะความร้อนจะทำให้ความหอมออกจากผ้าไปเรื่อยๆ นั่นเองค่า
5. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มภายใน 3 เดือนหลังจากวันที่ซื้อ
สายเก็บสายตุนคือพักก่อนนน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มภายใน 3 เดือนหลังจากที่ซื้อ เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทิ้งไว้นานๆ จะเหนียวข้นได้ และควรเก็บให้ห่างจากแสงแดด หลีกเลี่ยงการเก็บในบริเวณที่มีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นเกินไปเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำยาปรับผ้านุ่มเอาไว้ค่ะ