อาการคิดลบนี่เกิดขึ้นได้ง่ายมากๆ เลยนะคะ ทั้งปัจจัยรอบๆ ตัว เรื่องเครียดในแต่ละวัน หรืออดีตที่ฝังใจ แต่เราก็สามารถฝึกคิดบวกได้เช่นกันค่ะ เพื่อสภาพจิตใจที่ดีและมีความสุขกับชีวิต บอกเลยว่าง่ายนิดเดียววว 😉 ลองปรับใช้ดูกันนะคะ…
1. เรียนรู้จากความผิดพลาด
ทุกคนล้วนเคยทำผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้นจริงไหมคะ แต่เราสามารถนำสิ่งนั้นมาเป็นบทเรียนในชีวิตได้ เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นและมองต่อไปข้างหน้า รู้จักให้อภัยตัวเองและผู้อื่น เขาว่ากันว่าในเรื่องร้ายๆ จะมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ และเรายังมีโอกาสให้เริ่มต้นใหม่ได้เสมอนะคะ ^^
2. พาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ดีๆ
ที่ดีๆ ในที่นี้หมายถึงทั้งสถานที่ดีๆ สิ่งแวดล้อมดีๆ และคนรอบข้างที่ดี ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา มีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดและความรู้สึก ถ้าเราอยู่ท่ามกลางคนที่ประสบความสำเร็จและมองโลกในแง่ดี จะส่งผลให้เราซึมซับและได้ทัศนคติที่ดีจากเขามาด้วย ควรอยู่ให้ห่างคนที่คิดลบหรือคิดแต่แง่ร้าย ซึ่งจะขัดขวางการเดินไปข้างหน้าของเรา
ต่อด้วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นบวก จัดห้อง จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ หรือออกไปท่องเที่ยวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดทัศนคติด้านบวก ซึ่งจะช่วยให้เราเปลี่ยนมุมมองความคิดได้มากเลยค่า ^0^
3. อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
มองปัญหาให้เป็นเรื่องเล็ก อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ 😉 ทุกปัญหามีทางออกเสมอค่ะ ลองโฟกัสเป้าหมายภาพรวมมากกว่าปัญหาเล็กๆ น้อยๆ บางครั้งถ้าเราเอาทุกเรื่องมาใส่ใจ และให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป ก็อาจจะทำให้รบกวนประสิทธิภาพการตัดสินใจของเรา เจ้าความคิดเชิงลบเนี่ย เป็นกลไกในการเอาตัวรอดโดยใช้ความกลัวเป็นหลัก ถ้าเราคิดมากไปอาจทําให้พลาดโอกาสดีๆ มากมายในชีวิตได้นะค้าา
4. จินตนาการว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น
สิ่งนี้ไม่ใช่การเพ้อฝันนะคะ แต่เป็นการให้กำลังใจตัวเอง ลองฝึกนึกถึงเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เริ่มจากความสุขเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวันก่อนก็ได้ค่ะ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยใจที่เป็นบวก อย่างเช้านี้ตื่นขึ้นมา ตอนกลางวันจะได้ทานของอร่อยที่เราชอบแล้ว >,< พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวที่อยากไปแล้ว.. หรือในเรื่องการทำงานที่เรานั้นตั้งใจทำอย่างมาก มองเห็นภาพงานที่กำลังดำเนินไปด้วยดี และนึกถึงผลลัพธ์ดีๆ ที่จะเกิดขึ้น ทั้งคำชมหรืองานที่สำเร็จลุล่วง นั่นจะเป็นกำลังใจให้เราคิดบวกต่อไปค่ะ
5. คุยและทบทวนตัวเองอยู่เสมอ
ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รู้ข้อดีข้อเสียของตัวเอง พิจารณาตัวเองว่ามีด้านลบกับเรื่องอะไร แล้วในแต่ละวันรู้สึกแย่กับอะไรบ้าง เมื่อเราเรียงลำดับความคิดด้านลบได้ ก็เริ่มแก้ไขและทำการเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ แก้ไขเรื่องที่ไม่ดี และบอกกับตัวเองว่าพรุ่งนี้ต้องดีขึ้นกว่าเดิม หรือนั่งสมาธิเพื่อเคลียร์จิตใจให้ปลอดโปร่งก่อนนอนก็ดีเหมือนค่ะ
และอย่าลืมยิ้มและขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันด้วยนะคะ เตือนความทรงจำด้วยรอยยิ้ม เมื่อคนเรายิ้มจะช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวกับความรู้สึก ทำให้เรามีความสุขและ รู้สึกถึงพลังความคิดด้านบวกที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นคนใหม่ในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆ วันค่า
6. มอบสิ่งทีดีให้กับตัวเอง
ความสุขเริ่มจากตัวเราค่ะ เริ่มจากใช้ชีวิตที่ดี ดูแลตัวเองทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ นอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เวลากับตัวเองเพื่อผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือดีๆ ออกไปพบปะธรรมชาติ อยู่กับคนที่เรารักไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นการสร้างความสุขจากภายใน เพราะถ้าเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ความรู้สึกและอารมณ์ด้านลบก็จะลดน้อยลงไปด้วยนั่นเองค่ะ
7. ให้รางวัลกับความสำเร็จเล็กๆ
ลองตั้งเป้าหมายอะไรสักอย่าง และเมื่อเราทำสำเร็จก็ให้รางวัลกับตัวเอง เช่น ถ้าวันนี้ทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเร็ว จะจัดไอศกรีมรสโปรดสักถ้วย หรือถ้าลดน้ำหนักได้ตามเป้าที่กำหนด จะซื้อชุดสวยๆ ที่เล็งไว้นานหลายเดือน >,< เป็นการตั้งเป้าหมายและให้กำลังใจตัวเอง แม้จะเล็กๆ น้อย แต่นั่นคือจุดเล็กๆ ที่สำคัญของพลังบวกเลยล่ะค่าา สู้!!