7 สายพันธุ์กระต่ายน่ารักน่าเลี้ยง

by Happy Wonder

กระต่าย สัตว์เลี้ยงยอดนิยม เพราะด้วยหน้าตาอันน่ารักตะมุตะมิ ตาบ้องแบ๊ว ขนนุ่มเหมือนตุ๊กตา แต่ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงกัน เรามีข้อมูลเกี่ยวกับ 5 สายพันธุ์กระต่ายที่คนนิยมเลี้ยงมาแนะนำ มาดูกันค่ะว่ามีสายพันธุ์กระต่ายอะไรกันบ้างงง

1. พันธุ์เนเธอร์แลนด์ ดวอฟ (Netherland Dwarf)

Netherland Dwarf หรือที่เรียกกันว่า ND กระต่ายสายพันธุ์หูสั้นยอดฮิตที่พบเห็นตามร้านได้ง่ายที่สุด เพราะมีขนาดเล็ก น่ารัก ลักษณะลำตัวป้อม มีหูสั้นมากกว่ากระต่ายทั่วไป น้ำหนักตั้งแต่ 7 ขีด – 1 กิโลกรัม มีหลากหลายสี ขนฟูนุ่มลื่นสวยงาม เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีผู้คนทั่วโลกเลี้ยงมากที่สุด น้องมีความแอคทีฟสูงเวอร์! กระฉับกระเฉง จะมีนิสัยที่ค่อนข้างซุกซน ชอบการเรียนรู้และชอบวิ่งในพื้นที่กว้าง แต่ก็ถือว่าขี้อ้อนและน่ารักไม่น้อยเลยค่า

2. ไลออนเฮด (Lion Head)

เจ้าสิงโตตัวจิ๋ว หน้าตาน่าเอ็นดู ลักษณะพิเศษคือแผงขนบริเวณคอที่ทำให้ดูเหมือนสิงโต หน้าจะดูใหญ่ๆ เพราะพองขน >,< แต่ขนบริเวณลำตัวจะสั้น ตัวอ้วนกลม หูสั้นตั้ง ขนมีหลากหลายสีด้วยกัน ทั้งสีขาว น้ำตาล ส้ม และสีผสม เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม แถมน้องมีนิสัยขี้อาย เก็บตัว ถ้าใครอยากเลี้ยงน้อนต้องขยันแปรงขนหน่อยเพราะขนเค้าฟูฟ่องสุดๆ
เครดิตรูปภาพจาก https://animalcorner.org/rabbit-breeds/lionhead-rabbit

3. มินิเร็กซ์ (Mini Rex)

ตัวอ้วนนนนนน่าฟัด ขนสั้น แน่น และนุ่มเหมือนกำมะหยี่ อย่างกับตุ๊กตาเลยจ้าาา ใครได้เลี้ยงจะต้องอยากกอดทั้งวัน! เป็นกระต่ายที่อารมณ์ดี เหมาะสำหรับเป็นสัตว์เลี้ยง แทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตัดแต่งขนเลยค่ะ แค่ใช้ฝ่ามือลูบหลัง ขนที่ตายก็จะหลุดออกไป แต่ถ้าตัวเปื้อนมากๆ แล้วต้องอาบน้ำก็อาจจะต้องใช้เวลาในการทำให้แห้งนาน กินจุ แต่ก็ยังอยู่ในหมวดกระต่ายไซส์เล็กนะ

4. พันธุ์ฮอลแลนด์ลอป (Holland Lop)

ฮอลแลนด์ลอปเป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่มีความเป็นมิตรมากที่สุด ลักษณะตัวป้อม หัวกลม ใบหน้ากว้างสมกับขนาดของตัว หูตกลงมาแนบแก้มทั้ง 2 ข้าง ขนสั้นและหนา เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 1.5 – 1.8 กิโลกรัม นิสัยโดดเด่นคือ เรียบร้อย ขี้อาย สุดแสนจะน่ารักขี้อ้อน ฉลาด แถมยังว่านอนสอนง่ายด้วยน้า แต่ก็ต้องดูแลเรื่องการแปรงขนเหมือนกัน ถ้าใครจะซื้อแนะนำให้เลือกจากฟาร์มดีๆ นะคะ เพราะอาจจะได้สายพันธุ์เทียมหรือพันธุ์ผสมมาได้
เครดิตรูปภาพจาก IG: Bbunny.jb

5. พันธุ์เท๊ดดี้แบร์ (Teddy Bear)

เป็นกระต่ายขนาดเล็กที่พัฒนาสายพันธุ์โดยคนไทย โดยจะเป็นลูกผสมจาก Jerry Woody และสายพันธุ์อื่นๆ ลักษณะขนยาวปุกปุย มีหลายสี น้ำหนักตัวประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม ได้รับความนิยมมากเหมือนกันค่ะ เพราะหน้าตาน่ารัก ตัวกลมฟู ขนนุ่มหวีง่าย ขนยาวแค่ประมาณ 3 นิ้ว มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ มองไปมองมาก็คล้ายๆ ลูกหมีเหมือนกันนะเนี่ยยย มีนิสัยค่อนข้างนิ่ง เรียบร้อย ไม่ค่อยซุกซน แต่กินจุนะ >,< แถมราคาไม่แพงเนื่องจากเพาะพันธุ์ที่ไทยนั่นเองค่า

6. ดวอร์ฟ โฮโท (Dwarf Hotot)

ใครเห็นครั้งแรกก็ต้องสะดุดตาและชื่นชอบ กับดวงตากลมโต คมสวยอย่างกับกรีดอายไลเนอร์แน่ะ >,< ขนาดหูที่ดูเล็กกะทัดรัด ตัวเล็กน่ารัก ขนสั้นหนานุ่มสีอ่อนตัดกับตาสีเข้ม ถือเป็นสายพันธุ์พิเศษที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์กันมาจนกลายเป็นความน่ารักที่ใครเห็นก็ต้องเอ็นดู มีนิสัยที่ค่อนข้างเป็นมิตร มีความกระตือรือร้น ซนนิดๆ ส่วนการดูแลรักษาค่อนข้างง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่เพียงหวีขนเพียงวันละครั้งถึง 2 ครั้ง ขนก็จะนุ่มและทำให้เกิดความผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย

7. ดัตช์ (Dutch)

เจ้ากระต่ายที่เหมือนใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา เพราะสีขนของน้องเขาเป็นเอกลักษณ์สุดๆ คือจะเป็นสีหนึ่งตั้งแต่บริเวณหูลงไปถึงแก้มทั้ง 2 ข้าง ส่วนตรงกลางใบหน้าลงไปกลางลำตัวจะเป็นอีกสีนึง เก๋ไม่เบาาานะคะเนี่ยยย ขนาดตัวโตเต็มที่ 1.3 – 2.3 กิโลกรัม เป็นพันธุ์ที่อารมณ์ดีน่าเลี้ยง รับรองไม่มีเหงาจ้า
https://animalcorner.org/rabbit-breeds/dutch-rabbit

กระต่ายที่ผู้คนนิยมนำมาเลี้ยงกัน จะมีลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลี้ยงกระต่ายจึงนอกจากจะเลือกตามลักษณะหน้าตาที่เราชื่นชอบแล้ว ยังต้องศึกษาหาความรู้ในการเลี้ยงและดูความเหมาะสมของผู้เลี้ยงด้วยว่ามีเวลาดูแลเอาใจใส่มากแค่ไหน น้องกระต่ายอยู่กับเรา เขาจะได้มีความสุข ~ ~

Related Posts